Last updated: 13 Jul 2023 | 822 Views |
ก่อนที่เราจะซื้ออะไรสักอย่าง สิ่งสำคัญเลยคือการศึกษาให้รู้เกี่ยวกับสินค้าเหล่านั้นเสียก่อน ว่าคืออะไร มีลักษณะใช้งานแบบไหน ข้อดี – ข้อเสียอย่างไร โดยเฉพาะสินค้าหรือวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายในที่อยู่อาศัย เพราะที่อยู่อาศัยคือที่ที่เราใช้เวลาอยู่อาศัยเป็นเวลานานและเป็นที่ที่เราสร้างเพื่อใช้งานในอนาคตหลายปีข้าง หากเราไม่ทำการศึกษาวัสดุหรือสิ่งที่จะนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้านและว่าจ้างผู้รับเหมาเลย เราอาจจะเกิดข้อเสียเปรียบและเกิดความไม่คุ้มค่าในเงินที่เสียไปกับสิ่งที่จะได้รับได้ วันนี้ทาง Designterior เลยจะพามาทำความรู้จักกับวัสดุสำหรับตกแต่งพื้นบ้านของท่านให้สวยงาม นั้นก็คือ พื้นกระเบื้องยาง SPC ซึ่ง Designterior คาดว่าหลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับพื้นกระเบื้องยาง SPC กันมาบ้างแล้ว
พื้นกระเบื้องยาง SPC คือ
พื้นที่จัดอยู่ในประเภทพื้นที่มีความยืดหยุ่นสูง (Resilient Floor) เนื่องจากตัวพื้นมีส่วนผสมจากหินและพลาสติก Polyvinyl Chloride หรือที่นิยมเรียกกันว่า PVC ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า SPC (Stone Plastic Composite) ทำให้ตัวพื้นมีโครงสร้างที่เหนียว ยืดหยุ่น ทนทาน แข็งแรง และมีผิวหน้าที่แข็งแกร่งทนต่อรอยขีดข่วน สารเคมี รองรับน้ำหนักได้ดี และกันน้ำได้ 100%
นอกจากโครงสร้างที่แข็งแรงแล้ว การติดตั้งก็ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องรื้อถอนพื้นเก่าออกเพราะระบบคลิกล็อค และมีลวดลายและโทนสีสวยๆ ให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ที่ให้สัมผัสเหมือนไม้จริง ลายหินอ่อน ลายปูน ลายสีพื้นทั่วไป หรือแม้แต่ลายกราฟฟิกต่างๆ ที่สามารถสั่งทำได้ตามความต้องการ จึงทำให้ปัจจุบัน พื้นกระเบื้องยาง SPC เป็นที่นิยมในการนำมาใช้ในงานพื้นที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก
โครงสร้างพื้นกระเบื้องยาง SPC
โครงสร้างพื้นกระเบื้องยาง SPC แบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ด้วยกันคือ
นอกจากนี้พื้นกระเบื้องยาง SPC ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
1. พื้นกระเบื้องยาง SPC แบบใช้วัสดุ Recycle ในการผลิต ซึ่งพื้น ประเภทนี้จะทำให้มีสารเคมีปนเปื้อนมาพร้อมกับตัวพื้น นำไปสู่การเกิดอาการแพ้ และก่อให้เกิดการสะสมของสารเคมีสำหรับผู้ใช้งาน อีกด้วย
2. พื้นกระเบื้องยาง SPC แบบผลิตขึ้นใหม่ คือการใช้พลาสติกใหม่ในการผลิต ซึ่งจะไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปนเปื้อนอยู่ในตัวพื้นเลย ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าพื้นกระเบื้องยาง SPC แบบอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถป้องกันแบคทีเรียได้อีกด้วย
การเตรียมพื้นก่อนปูพื้นกระเบื้องยาง SPC
พื้นชั้นล่างต้องมีความสูง - ต่ำของระดับไม่เกิน 3 มิลลิเมตรต่อทุกระยะ 1 เมตร เพื่อให้พื้นกระเบื้องยาง SPC เรียบสม่ำเสมอ กรณีระดับพื้นชั้นล่างมีความต่างมากกว่า 3 มิลลิเมตร เมื่อสัมผัสตัวพื้นจะทำให้รู้สึกยวบเท้าได้
โดยการปรับระดับสามารถทำได้ด้วยการขึงเอ็นระดับหรือการจับคันปูน หรืออีกวิธีหนึ่งคือการปรับระดับด้วยปูนปรับระดับแบบ Self Leveling ซึ่งสามารถปรับระดับได้แบบ 100% (ค่าใช้จ่ายสูง)
วิธีการปูพื้นกระเบื้องยาง SPC
1. พื้นกระเบื้องยาง SPC แบบโครงสร้าง 4 ชั้น หรือแบบไม่มีโฟมรองติดมากับตัวพื้น หลังจากมีการเตรียมพื้นก่อนปูแล้ว ควรปูพื้นด้วยโฟมรองความหนา 1.5 มิลลิเมตรก่อน เพื่อช่วยปรับระดับพื้นให้มีความสม่ำเสมอ ความแข็งแรง และการดูดซับเสียงเวลาเดินบนพื้นมากขึ้น จากนั้นใช้น้ำหนักแผ่นวางยึดชิดติดกันด้วยระบบคลิกล็อครอบตัวแผ่นโดยไม่ต้องติดกาว
2. พื้นกระเบื้องยาง SPC แบบโครงสร้าง 5 ชั้น หรือแบบมีโฟมรองติดมากับตัวพื้น สามารถปูพื้นด้วยได้เลย โดยการใช้น้ำหนักแผ่นวางยึดชิดติดกันด้วยระบบคลิกล็อครอบตัวแผ่นโดยไม่ต้องติดกาว และไม่จำเป็นต้องใช้โฟมรองก่อน เพราะมีโฟมรองมากับตัวพื้นอยู่แล้ว
ข้อดี – ข้อเสียของพื้นกระเบื้องยาง SPC
| ข้อดี | ข้อเสีย |
| 1. ลวดลายสวยงาม และหลากหลาย | 1. ไม่สามารถนำไปใช้ภายนอกอาคารได้ |
| 2. ผิวสัมผัสที่นุ่ม เรียบเนียนกว่าพื้นแบบอื่น ๆ | 2. กันน้ำและความชื้นได้น้อยเมื่อเทียบกับพื้นปกติ |
| 3. ทนทานต่อความชื้น น้ำ และไฟ | 3. ปูพื้นในบริเวณสาธารณะที่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมามากๆ ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ |
| 4. ติดตั้งง่าย สะดวก และรวดเร็ว | |
| 5. ดูแลรักษาง่าย | |
| 6. ราคาไม่แพง |
ที่มา : FloorD , A-decor , smartbuilts , DOUBLE FLOOR , LEOWOOD , lamaison.co.th